Home » กีฬาเอ็กซ์ตรีม » MMA บทสรุปของศิลปะป้องกันตัวมือเปล่าแห่งยุค

MMA บทสรุปของศิลปะป้องกันตัวมือเปล่าแห่งยุค

ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปะป้องกันตัว ในอดีตผู้คนโดยส่วนใหญ่มักเลี่ยงที่จะเล่นกีฬาประเภทนี้กัน จึงทำให้จำกัดอยู่เพียงแค่กลุ่มเล็ก ๆ ทว่าทุกวันนี้โลกศิลปะป้องกันตัวได้เปิดกว้างให้ผู้คนได้เข้าไปเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะเพื่อพัฒนาศักยภาพตัวเองในการป้องกันตัวยามที่มีภัยอันไม่คาดฝันมาถึงจากผู้ที่ไม่ประสงค์ดีต่อร่างกายและทรัพย์สิน หลายคนจึงตัดสินใจหันหน้าเข้ายิมเพื่อเรียนรู้ศิลปะประเภทนี้ติดตัวไว้ ไม่เพียงเท่านั้นยังถือเป็นกีฬาที่สามารถออกกำลังกายดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันการฝึกฝนก็ไม่ต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัว ส่วนใครที่ต้องการลงสังเวียนแน่นอนว่ามันย่อมแลกกับการเจ็บตัวอยู่บ้างเป็นธรรมดา

MMA ทางเลือกใหม่ของการเรียนศิลปะป้องกันตัวที่มาแรง

MMA คืออีกทางเลือกของผู้คิดจะเรียนรู้ทักษะศิลปะป้องกันตัวด้วยมือเปล่า ที่ผสมผสานศิลปะป้องกันตัวหลากหลายแขนงเข้าด้วยกัน มันจึงได้ชื่อว่า “ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน” หรือในภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Mixed martial art” แต่ส่วนใหญ่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “MMA” ศิลปะแขนงต่าง ๆ เหล่านั้นอันได้แก่ มวยไทย มวยจีน มวยสากล มวยปล้ำ คาราเต้ ยูโด แซมโบ กังฟู บราซิลเลี่ยนยูยิสสู เป็นต้น มาผนวกรวมเข้าด้วยกันและพลิกแพลงนำออกมาใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ประสบได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด หรือหากให้เห็นภาพกันชัด ๆ ของ MMA จะแบ่งแยกออกได้เป็น 3 ส่วน คือหากใช้ท่ายืนต่อยก็จะใช้มวยไทย มวยสากล คาราเต้ เทควันโด้ มวยจีน แต่หากต้องจับทุ่มก็ต้องหันมาใช้มวยปล้ำ ยูโด แซมโบ้ ลงไปจนกระทั้งลงพื้นท่านอนก็สามารถต่อสู้ได้กับบราซิลเลี่ยนยูยิตสู ยูโด มวยปล้ำแบบหักล็อค

สังเวียนการแข่งขันของโลก MMA

อย่างไรก็ตามหากคิดจะลงสังเวียนการแข่งขัน MMA ก็สามารถทำได้ ภายใต้รายละเอียดกฎกติกาข้อห้ามที่เห็นว่าอันตรายต่อการฝึกซ้อมและคู่สู้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรายการและองค์กรจัดการแข่งขันนั้น เช่น การกระทืบ โน้มจับคอตีเข่า ฟันศอก เป็นต้น ส่วนรูปแบบสังเวียนแต่ละรายการก็จะแต่งต่างกันไป บ้างก็เป็นกรง บ้างก็คล้ายเวทีมวย แต่ที่ได้รับความนิยมจะเป็นกรง 8 เหลี่ยม และกรงวงกลม จนเป็นที่มาคำเรียกการต่อสู้ประเภทนี้อีกชื่อว่า “มวยกรง”

สำหรับผลการตัดสินแพ้ชนะก็จะขึ้นกับองค์ประกอบต่าง ๆ ได้แก่ การชนะคะแนนหลังจากชกกันครบยกตามที่กำหนด ซึ่งหากเป็นการแข่งขันทั่วไปจะมี 3 ยก แต่หากเป็นการแข่งขันไฟล์ชิงแชมป์หรือไฟล์นัดพิเศษจะแบ่งเป็น 5 ยก ส่วนผลการตัดสินผลแพ้ชนะจะประกอบไปด้วยการชนะน็อคเอาท์คู่ต่อสู้หรือคู่ต่อสู้ไม่สามารถแข่งขันต่อได้ และการทำให้คู่ต่อสู้เอ่ยปากยอมแพ้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่นักสู้จะใช้ท่าล็อคคู่ต่อสู้ส่งผลให้อีกฝ่ายเจ็บปวดจนทนไม่ได้ นอกจากนี้แล้วกรรมการผู้ชี้ขาดบนเวทีก็สามารถสั่งยุติการแข่งขันได้ ถ้าเห็นสมควรว่าอันตรายไร้สมรรถภาพในการตอบโต้หรือป้องกันตัว

ส่วนผู้สนใจใคร่ฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวด้วยมือเปล่าแขนงนี้ในบ้านเราก็มีสำนัก ยิม และค่าย ที่เปิดสอนอยู่หลายแห่ง ไม่เพียงเท่านั้นก็ยังมีสังเวียนการต่อสู้วนเวียนเข้ามาเปิดการแข่งขันอยู่ด้วยเช่นกัน มีเหล่าบุรุษและสตรีสัญชาติไทยหลายท่านที่เคยขึ้นสังเวียนประลองสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมาแล้วมากมาย ไปจนถึงคว้าเข็มขัดแชมป์เปี้ยนในบางรุ่นด้วย  

อย่างไรก็ตามเชื่อว่ายังมีผู้คนอีกมากมายที่อาจมองว่า MMA นั้นจะเป็นศิลปะป้องกันตัวที่ไร้ข้อจำกัดและกฎกติกา โหดร้าย ป่าเถื่อน ทว่าในการต่อสู้จริงเพื่อเอาชีวิตรอดแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ และแรงขับเคลื่อนของสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ศิลปะป้องตัวเป็นเพียงแค่การฝึกฝนเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเองเท่านั้น